5 เหตุผลดีๆ ที่ธุรกิจควรใช้ระบบ R-CRM และ R-Insight

5 เหตุผลดีๆที่ธุรกิจควรใช้ระบบ R-CRM และ R-Insight

ข้อมูลจาก financesonline.com ที่รวบรวมผลสำรวจของบริษัท CRM Software มากถึง 54 บริษัท ในปี 2020 สำรวจกับกลุ่มลูกค้าที่ใช้ ระบบ CRM กับธุรกิจ พบว่า

   “CRM สามารถเพิ่มยอดขายได้ 29% เพิ่มผลผลิต 34% และคาดการณ์ความแม่นยำได้ 42%” 

คำถามง่ายๆ แต่ช่างตอบยากสำหรับบางธุรกิจ ที่ว่า “ ทำไมลูกค้าต้องซื้อสินค้าของคุณ ?”  ความเข้าใจปัญหาและความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด จะช่วยตอบคำถามนี้ได้ ด้วยการมีข้อมูลของลูกค้าที่มากเพียงพอ จึงสามารถวิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือความต้องการหรือปัญหาของลูกค้า ดังนั้น ระบบ CRM จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทและได้รับความนิยมจากหลายธุรกิจทั่วโลก ซึ่งวันนี้ธุรกิจของคุณก็สามารถมีระบบ CRM ได้เองแบบง่ายๆ 

สำหรับ Readyplanet เอง ระบบ R-CRM ที่ช่วยบริหารจัดการลูกค้า งานขาย และการตลาดช่วยเก็บข้อมูลของลูกค้า ที่ตอบโจทย์สำหรับทีมขายของคุณ เรียกว่า R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ มาดูกันว่า R-CRM ทำอะไรได้บ้าง ?

1. ใช้ R-CRM เพื่อช่วยบริหารทีมขายในธุรกิจของคุณ

1.1   R-CRM มีตัวช่วยสำหรับหัวหน้าทีมขาย หรือ เจ้าของธุรกิจ เช่น

• User Management หรือ การจัดการผู้ใช้ ที่ช่วยให้หัวหน้าทีมขายหรือเจ้าของธุรกิจ สามารถบริหารจัดการทีมขายได้ง่ายขึ้น เช่นการกำหนดสิทธิ์ให้พนักงานมาช่วยในการดูแลลูกค้าได้ เช่น พนักงานขาย  A เป็น Admin ดูแลระบบบริหารทีมขาย และให้พนักงานขาย B มาเป็น User ในการตอบแชท 
  
  
•  Teams หรือ การจัดการทีม ที่ช่วยจัดการทีมขายที่สามารถกำหนดให้ใครเป็นหัวหน้าทีมและมีใครเป็นสมาชิกในทีมได้ นอกจากเรื่องความง่ายในการจัดการแล้ว เจ้าของธุรกิจและหัวหน้าทีมสามารถประเมินศักยภาพของทีมขายแต่ละทีมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งหัวหน้าทีมขายยังเข้ามาดูแลการทำงานของลูกทีมได้ดีขึ้น โดยสามารถมองเห็นภาพรวมการสื่อสารหรือการเสนอขายของทีมขายกับลูกค้า ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพียงใดได้อีกด้วย
  
  
•  Lead Transfer หรือ การส่งต่อข้อมูล ที่ช่วยให้คุณส่งต่อรายการขายและรายชื่อลูกค้าของพนักงานขายที่ลาออกไปยังพนักงานขายที่จะมารับช่วงต่อได้อย่างง่ายดาย เพราะบ่อยครั้งที่ทีมขายมักจะวุ่ยวาย เมื่อมีพนักงานขายคนใดคนหนึ่งลาออก แล้วต้องโอนถ่ายรายการขายและรายชื่อลูกค้าให้แก่พนักงานขายคนใหม่ หากไม่มีระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกตรงนี้ อาจทำให้พนักงานขายเสียเวลาในการจัดการข้อมูลส่วนนี้

1.2  R-CRM มีตัวช่วยสำหรับพนักงานขาย ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น

•  Lead Inbox หรือ ข้อมูลที่ต้องติดต่อวันนี้ ตัวช่วยที่ดีในการติดตามงานขายของลูกค้าแต่ละคนในแต่ละขั้นตอนได้ทุกวัน ช่วยให้พนักงานขายเริ่มงานขายในแต่ละวันได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าวิธีการทำงานแบบเดิม จากที่เคยเก็บข้อมูลการขายของแต่ละวันลงกระดาษหรือไฟล์ Exel แต่พอเริ่มงานวันใหม่ ก็ต้องกลับมาย้อนดูข้อมูลที่คุยกับลูกค้าไว้ในคราวก่อน  
  
  
• Label หรือ ป้ายกำกับ  ช่วยในเรื่องการเก็บข้อมูลที่ดีขึ้น ช่วยจำแนกประเภทหรือความสำคัญของรายการขายแต่ละรายการได้ด้วย ป้ายกำกับ 
  
  
•  Note หรือ บันทึกการติดต่อ นอกจากนั้น ยังสามารถเพิ่มบันทึกรายละเอียดสำคัญ ๆ ที่ได้พูดคุยกับลูกค้าไว้ทุกๆครั้งที่มีการคุยกัน  เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าเมื่อต้องติดต่อกับลูกค้าในครั้งถัดไป หรือสำหรับพนักงานขายท่านอื่นมาดูแลลูกค้ารายนี้ต่อ 

• Reminder หรือ ระบบแจ้งเตือน พนักงานขายแต่ละคนสามารถตั้งวันที่และเวลาแจ้งเตือนสำหรับการติดต่อหรือพบลูกค้าในครั้งถัดไปได้ เพื่อไม่พลาดการนัดหมาย 
  
  
•  Documents หรือ เอกสารสำคัญ ในระบบ R-CRM ยังมีระบบในการรวบรวมเอกสารสำคัญไว้ที่ศูนย์กลาง จัดเป็นระบบ ช่วยให้พนักงานขายทุกคนสามารถเข้ามาใช้งานเอกสารต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
  
  

•  Products หรือ รายละเอียดสินค้า เป็นที่รู้กันดีว่าสิ่งที่ทำให้พนักงานขายเสียเวลาการทำใบเสนอราคามากที่สุด คือการใส่รายละเอียดสินค้า ยิ่งถ้าบริษัทไหนมีจำนวนสินค้ามากและหลากหลาย ก็จะยิ่งสร้างความล่าช้าและยากลำบากในการทำใบเสนอราคา ฟีเจอร์ Products จาก R-CRM จะช่วยลดความยุ่งยากในการใส่รายละเอียดสินค้าในใบเสนอราคา เพราะคุณสามารถใส่รายละเอียดสินค้า ทั้ง ชื่อสินค้า ราคา รหัส ไว้ในระบบ เมื่อพนักงานขายต้องการสร้างใบเสนอราคาก็สามารถคลิกเลือกสินค้าที่อยู่ในระบบได้เลย โดยไม่ต้องพิมพ์รายละเอียดใหม่ทุกครั้ง
  
  
•  Quotation / Invoice ความสะดวกอีกประการสำหรับพนักงานขายอีกอย่างนั่นก็คือ ใน R-CRM สามารถสร้างใบเสนอราคาและใบ Invoice แบบง่าย ๆ ได้ในระบบ
  
  
•  E-mail เมื่อพนักงานขายสร้างใบเสนอราคาหรือใบInvoice เสร็จแล้วก็สามารถแนบไฟล์เอกสาร ส่งอีเมลหาลูกค้าได้ในระบบR-CRM ได้ทันที โดยไม่ต้องเปิด Gmail ให้เสียเวลาอีกต่อไป ข้อดีอีกประการคือสามารถแจ้งสถานะว่าอีเมลของคุณ ลูกค้าได้เปิดอ่านแล้วหรือยังไม่ได้เปิดอ่านได้อีกด้วย

2. ใช้ R-CRM เพื่อประโยชน์ในการใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ

R-CRM เปรียบเสมือนระบบที่ช่วยคุณเก็บข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการซื้อ ข้อมูลเหตุผลของการไม่ซื้อ และข้อมูลประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ทั้งยังช่วยวิเคราะห์และจำแนกลูกค้าไว้หลากหลายประเภทที่สามารถนำไปวิเคราะห์และนำไปปรับใช้ในส่วนต่าง ๆ ของบริษัท ทั้งเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดและการขาย หรือแม้กระทั่งพัฒนาบุคลากรในองค์กร ที่สำคัญยังสามารถเชื่อมกับระบบ R-Insights ที่ช่วยให้ผู้บริหารดูข้อมูลสถิติต่าง ๆ ได้ ดังนี้

•  Sale Pipeline แสดงภาพรวมหรือกระบวนการขายทั้งหมดได้ ทั้งจำนวน Lead ที่เข้ามาใหม่, จำนวน Lead ที่สนใจสินค้า ไปจนกระทั่งจำนวน Lead ที่สามารถปิดการขายได้
  
  
  
  

นอกจากภาพรวมของ Sales Pipeline แล้วยังสามารถดูข้อมูลเชิงสถิติของ Lead แต่ละประเภทแบบเจาะลึก หรือแนวโน้มของ Lead หรือพนักงานขายที่จะมีโอกาสปิดขายได้มากที่สุด เช่น

•   Lead Activities ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งเป็นข้อมูลสถิติ จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจหรือหัวหน้าทีมขายรู้ความเคลื่อนไหวของจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในแต่ละวันได้
  
  
•  Lead Conversion จำนวนคนที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อสินค้า โดยสามารถดูข้อมูลได้แบบรายวันหรือแต่ละช่วงเวลาได้ตามที่ต้องการ ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์และวางแผนดี ๆ กับทีมขาย เพื่อนำเสนอข้อตกลงต่าง ๆ ให้ลูกค้าพึงพอใจได้ ก็อาจทำให้เพิ่มจำนวนของ Lead ที่ปิดการขายได้มากขึ้นนั่นเอง

ข้อดีอีกประการในระบบ R-Insights คือสามารถเก็บข้อมูลเชิงสถิติของประสิทธิภาพการทำงานในมิติต่าง ๆ ได้ เช่น พนักงานขายคนไหนปิดการขายได้มากที่สุด, Source หรือลูกค้าจากแหล่งที่มาไหนสามารถปิดการขายได้มากที่สุด หรือสินค้าไหนขายดีที่สุด ดังนี้

•   Performance by User ประสิทธิภาพของการปิดการขายของพนักงานขายแต่ละคน ซึ่งหัวหน้าทีมขายหรือเจ้าของกิจการสามารถนำข้อมูลตรงนี้มาพัฒนาศักยภาพของพนักงานขายให้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
  
  
•   Performance by Product ได้รวบรวมผลของข้อมูลสินค้าใดที่สามารถปิดการขายได้มากที่สุด ไปจนถึงสินค้าใดสามารถปิดการขายน้อยที่สุด ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้สามารถนำไปวางแผนได้ ทั้งกลยุทธ์การขายและการตลาด แม้กระทั่งการพัฒนาสินค้า หรือปรับ-ลดปริมาณสินค้า ได้อีกด้วย

นอกจากนั้น คุณยังสามารถดูประสิทธิภาพการปิดการขายของบริษัทแบบราย 6 เดือน Performance last 6 months เพื่อดูภาพรวมภายในครึ่งปีว่ายอดขายของแต่ละเดือนเป็นอย่างไร ยอดขายในเดือนใดสูงและต่ำสุด โดยมีปัจจัยอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง และสามารถนำไปคาดคะเนยอดในเดือนถัด ๆ ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ใช้ R-CRM เพื่อประโยชน์ในด้านการตลาดออนไลน์

ในระบบ R-Insights ของ R-CRM สามารถเก็บข้อมูลจากแหล่งที่มาต่าง ๆ ได้ ข้อมูลในส่วนนี้ช่วยให้คุณวางแผนการใช้งบการตลาดหรืองบโฆษณาออนไลน์ได้ถูกที่ถูกทางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เช่น บริษัท A ทำโฆษณาออนไลน์ ทั้ง Google และ Facebook ข้อมูลในระบบ R-Insights ของ R-CRM ในเดือนที่ผ่านระบุว่า ลูกค้าที่มาจาก Facebook มากที่สุดและปิดการขายได้มากที่สุด ในขณะที่ลูกค้าที่มาจาก Google ไม่สามารถปิดการขายได้เลย ก็อาจจะนำมาสู่การปรับงบโฆษณาไปที่ Facebook มากกว่า Google เป็นต้น

ความพิเศษอีกประการของ R-Insights ของ R-CRM คือสามารถดูข้อมูลในมิติของ เรื่องเหตุผลที่ลูกค้าไม่ซื้อสินค้า โดยคุณสามารถดูได้ว่าลูกค้าที่ไม่ซื้อนั้นมาจาก Source ไหน Keywords อะไร หรือแคมเปญโฆษณาไหน เพื่อการวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์การทำการตลาดและโฆษณาออนไลน์ได้อีกด้วย

4. ใช้ R-CRM เพื่อปรับปรุงการบริการลูกค้า

จุดเด่นอีกประการของ R-Insight ในระบบ R-CRM คือ สามารถดูเหตุผลที่ลูกค้าไม่ซื้อสินค้าในแต่ละเดือนได้ พร้อมรายละเอียดของเหตุผลต่าง ๆ ซึ่งการรู้ข้อมูลนี้ จะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด อย่างทันท่วงที นำมาซึ่งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยสามารถดูข้อมูลในเชิงลึกได้หลายส่วนคือ

•  Top 5 lost reasons (5 เหตุผลแรกที่ลูกค้าไม่สนใจซื้อ)
•  Lost reason by reason (เหตุผลที่ลูกค้าไม่สนใจซื้อ) 

    

5. ใช้ R-CRM ช่วยสร้าง Sales Report ที่ถูกต้องแม่นยำ

การทำ Sales Report ของทีมขายที่ถูกต้องแม่นยำอย่างเป็นระบบและครบทุกขั้นตอน จะช่วยให้ เจ้าของกิจการ สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์การขาย การตลาดรวมถึงการโฆษณาได้อย่างแม่นยำ จนนำมาสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้

เพราะ Readyplanet เข้าใจว่าพนักงานขายแต่ละคน ต้องพบต้องคุยกับลูกค้าหลายเจ้าต่อวัน อาจทำให้หลงลืมหรือทำรายชื่อลูกค้าตกหล่นไป ยิ่งการการเก็บข้อมูลลูกค้าแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเก็บข้อมูลใน Spreadsheet นั้นก็ใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนานและยุ่งยากเกินไป 

และจากที่เราให้บริการ All-in-One Sales & Marketing Platform แก่ผู้ประกอบการในประเทศไทยทั้ง SMEs, หน่วยงาน, สมาคม และองค์กรขนาดใหญ่ กว่า 15,000+ ราย พบว่าปัญหาหลักของการทำ Sales Report ที่ไม่ถูกต้องแม่นยำ มาจากสาเหตุหลัก ๆ 3 ประการ คือ

• ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการเก็บข้อมูลแบบเดิม ผ่าน Spreadsheet หัวหน้าสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้ยาก อีกทั้งยังดูภาพรวมของขั้นตอนการทำงานของพนักงานขายแต่ละคนได้ยาก  
  
  
• วัดผลการทำงานของทีมขายไม่ได้ เพราะผู้บริหารและหัวหน้า ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั่วถึง รวมถึงข้อมูลที่กระจัดกระจาย ทำให้เป็นเรื่องยากและเสียเวลามากในการวัดผลประสิทธิภาพการทำงานของทีมขาย
  
  
• เสียเวลาการทำรายงานแต่ละครั้ง เมื่อไม่มีระบบเก็บข้อมูล หรือเก็บข้อมูลได้ไม่เป็นระบบ ทำให้พนักงานขายต้องเสียเวลาในการทำรายงานแต่ละครั้ง

และนี่คือ 5 เหตุผลสำคัญที่ตอบคำถามว่า “ทำไมธุรกิจของคุณจึงควรเลือกใช้ R-CRM” แพลตฟอร์มบริหารงานขายที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย และ R-CRM เป็น 1 ใน Readyplanet Marketing Platform ที่น่าแนะนำบอกต่อให้ธุรกิจต่างๆได้ใช้งาน เพียงสมัครใช้แพลตฟอร์มจากการแนะนำของคุณ ( Your Ref. Link ) แล้วเปิดใช้งาน R-CRM และ R-Insight คุณก็สามารถทำการเชื่อมกับเว็บไซต์เดิมของคุณได้แล้ว

โดย  แพคเกจฟรี สามารถใช้งานได้ 1 user บันทึกข้อมูลลูกค้าได้สูงสุด 100 Contacts และบันทึกได้สูงสุด 10,000 Contacts ในแพคเกจ Premium, บันทึกได้สูงสุด 50,000 Contacts ในแพคเกจ Gold และบันทึกได้สูงสุด 300,000 Contacts ในแพคเกจ Platinum ที่มาพร้อมกับการใช้งานได้ถึง 3 user ระบบดีๆแบบนี้ คุ้มค่าที่จะแนะนำต่อและเปิดใช้งานกันค่ะ 

เข้ารับลิงค์และแบนเนอร์แนะนำของท่าน ( Your Ref. Link )  ได้ที่ 

 https://affiliate.readyplanet.com/ 

 > เข้าสู่ระบบ 

 > Assets 

 ตัวอย่างแบนเนอร์ลิงค์ R-CRM 

ครั้งหน้า Readyplanet จะมาแนะนำแพลตฟอร์มอื่นๆ หรือแพคเกจอะไรที่เข้าโครงการสำหรับพันธมิตรแนะนำต่อ หรือมีเรื่องราวต่างๆ รอติดตามกันค่ะ 

 อัพเดทข้อมูลต่างๆของโปรแกรมพันธมิตรได้ที่นี่ค่ะ 

 https://affiliate.readyplanet.com/

 Updated: 12 March 2021 | Produced by Witida Wattanakul